ราคาแหวนเพชร

ราคาแหวนเพชร

ราคาแหวนเพชร

ราคาแหวนเพชร ราคาแหวน หลายๆท่านอาจสนใจ หรือสงสัย ว่าราคาแหวนเพชร ราคาแหวนที่เราเห็นๆ ตามร้านเพชร หรือบูธ ตามห้างสรรพสินค้านั้น แพงไปมั้ย? ราคาเหมาะสมรึป่าว? เราถูกโขกหรือโก่งราคารึป่าวๆ ก่อนที่จะสามารถประเมินได้ด้วย ตนเองว่า ราคาแหวนเพชร วงๆหนึ่ง นั้นแพงหรือถูก เราควรต้องทำความเข้าใจเบื้องต้น เกี่ยวกับ ส่วนประกอบของแหวนเพชรก่อนครับ

บทความนี้ อธิบายถึง ส่วนประกอบและต้นทุนต่างๆของแหวนเพชร ซึ่งส่วนประกอบหลักๆ ที่เป็นที่มาของราคาแหวนเพชรแต่ละวง ได้แก่ เพชรเม็ดกลาง, เพชรบ่า และตัวเรือน ทั้งนี้ ความเห็นในบทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ที่ว่าแพงสำหรับผม กับบางคนอาจคิดว่าไม่แพงก็เป็นได้ครับ มาตรฐานคนเราไม่เหมือนกัน ขอออกตัวไว้ก่อน

1.เพชรเม็ดกลาง (Center Diamond) เพชรเม็ดกลาง ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุด และมีราคาสูงที่สุดครับ สามารถตรวจสอบราคาเพชรเบื้องต้น ตามคุณภาพสี และความสะอาดของเพชรได้ที่นี่ครับ ราคาเพชร จากตัวอย่างในตาราง ราคาเพชร อ้างอิง เพชรขนาด 40 ตังค์ น้ำ 95 (I), VS1, ราคาต่อกะรัต อยู่ที่ 67,900 บาทต่อกะรัต ถ้าเพชรหนัก 0.40 กะรัต ราคาจะเท่ากับ 27,160 บาทต่อเม็ดโดยประมาณ การตรวจสอบเบื้องต้นว่า ราคาเพชรถูกหรือแพง สามารถยึดเกณฑ์คร่าวๆ ดังนี้ครับ

ถ้าราคาที่ได้อยู่ในช่วง -10% – +10% ของราคานี้ ถือได้ว่า ราคาใช้ได้ครับ ไม่ถูกไม่แพง
ถ้าราคาเพชรอยู่ในช่วง -20% – (-10%) ถือว่าราคาถูกทีเดียวครับ
ถ้าราคาต่ำกว่าราคาอ้างอิงถึง 20% ถือว่า ราคาถูกมากๆ ครับ รีบซื้อด่่วน
ถ้าราคาเพชรอยู่ในช่วง +10% – +20% ถือว่าเป็นราคาค่อนข้างแพง
ถ้าราคาเพชรสูงกว่า +20% ถือว่าเป็นราคาแพงครับ
ถ้าราคาเพชรสูงกว่า +30% ถือว่าเป็นราคาแพงมากๆครับ รีบวิ่งหนีโดยด่วน ^^

2.เพชรบ่า (Side Diamond) เพชรบ่าหรือ Side diamond เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของแหวนเพชร ครับ และแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคาแหวนเพชร แต่แหวนเพชรบางแบบอย่างแบบแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว ก็อาจไม่มีเพชรบ่า หรือเพชรล้อมก็ได้ครับ

สำหรับเพชรที่นิยมนำมาใช้เป็นเพชรบ่า หรือเพชรล้อม มักมีขนาดตั้งแต่ประมาณ ครึ่งตังค์ ถึง ห้าตังค์ได้ครับ และคุณภาพที่ใช้โดยมากจะเป็นเกรด H-I/VS-SI ครับ ราคาต่อกะรัตโดยประมาณอยู่ที่ 23000-25000 ถ้าถูกกว่า 23000 ก็ถือว่าถูกครับ ถ้าแพงกว่า 27,000 ถือว่า แพงครับ

3.ตัวเรือนแหวน ตัวเรือนถือเป็นอีกส่วนประกอบสำคัญของแหวนเพชร และส่งผลต่อราคาแหวนเพชร ว่าจะถูกหรือแพง เพื่อให้เป็นการง่าย ตัวเรือนในที่นี้ผมจะกล่าวถึงเฉพาะ ตัวเรือนทอง 18K (18K White Gold, Pink Gold, Yellow Gold) ราคาแหวนเพชรในส่วนของตัวเรือน ประกอบด้วยสองส่วนหลักๆ ได้แก่

โลหะมีค่า (Precious Metal) – ปริมาณหรือน้ำหนักของโลหะมีค่า (ในที่นี้คือทอง 18K) มีผลโดยตรงต่อราคาแหวนเพชรครับ แน่นอนว่ายิ่งใช้ทองมาก น้ำหนักเยอะ ราคาแหวนเพชรก็ยิ่งสูง การประเมินราคาแหวนเพชรในส่วนโลหะมีค่า

คิดได้คร่าวๆดังนี้ครับ ใช้ราคาทองปัจจุบัน เช่น อย่างตอนนี้ ทองบาทละประมาณ 26000 บาท นำมาหารด้วย 15.2 จะได้ราคาทองต่อกรัม โดยประมาณ เป็น 1710 บาทต่อกรัม คราวนี้ต้องบวกเผื่อค่่าสูญเสีย ระหว่างกระบวนการผลิต หรือที่เรียกในวงการว่าค่าซิ (ซึ่งถ้าเป็นการขึ้นตัวเรือนด้วยมือบางครั้งอาจสูงถึง 30%) รวมถึงกำไรของผู้ขาย ประมาณ 20-30%คร่าวๆ ราคาแหวนต่อกรัม ก็จะประมาณ 2050-2200 บาท ได้ครับ ถ้าได้ราคาประมาณนี้ ถือว่า ใช้ได้ครับ ถ้าต่ำกว่านี้ก็ถือว่าถูก และถ้าราคาสูงกว่ากรัมละ 2300 ถือว่าแพงครับ

ค่าแรง – ค่าแรงช่างในการขึ้นตัวเรือน ถือว่าหลากหลายมาก แล้วแต่คุณภาพของงาน แหวนแบบคล้ายๆ กัน ค่าแรงต่อวง อาจเริ่มตั้งแต่ วงละ 500-3000 ได้ครับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพและฝีมือของช่าง ถ้างานคุณภาพดี ไม่มีตามด ขนแมว ตัวเรือนสวยได้รูปทรง งานขัดเงาได้มาตรฐาน ค่าแรงประมาณ 2000-3000 ถือว่าไม่แพงครับ 3000-4000 ยังพอรับได้ แต่ถ้าสูงกว่า 4000 นี่ ผมว่าแพงไปครับ (อันนี้ยกตัวอย่างแหวนนะครับ สำหรับตัวเรือนชิ้นใหญ่กว่านี้ เช่นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ค่าแรงจะสูงกว่านี้)

ตัวอย่างการคำนวณ สมมติเราเจอแหวนเพชร หนึ่งวง เพชรเม็ดกลางเป็นน้ำ 95, IVS1 40 ตังค์ ตัวเรือนเป็นทองหนัก 18K หนัก 3 กรัม มีเพชรบ่าเล็ก ด้านละ 4 เม็ด รวม 8 เม็ด หนัก 16 สตางค์ ราคาแหวนเพชรวงนี้จะประมาณเท่าไหร่ครับ ถึงถือว่าไม่แพง? เพชรราคาประมาณ 24,444-29,876 (จากข้อ 1, 27,160 +-10%) เพชรบ่าประมาณ 3,680-4,000 (23000×0.16 – 25000×0.16) ค่าทอง 6150-6600 (2050×3 – 2200×3) และค่าแรง 2000-3000 รวมเบ็ดเสร็จราคาแหวนเพชร เท่ากับ 39,654-43,476

เคล็ดลับการซื้อแหวนเพชร และการต่อรองราคาแหวนเพชร การเจรจาต่อรองราคาแหวนเพชร ผมอยากเปรียบเทียบกับการว่าจ้างงานรับเหมาก่อสร้าง ตกแต่งครับ เวลาที่เราจ้างตกแต่งภายใน แบบเหมาทั้งหมด (ทั้งออกแบบ จัดหาวัสดุ หาช่าง ค่าแรง ค่าของทุกอย่าง ให้เสร็จเรียบร้อยตามแบบ) หรือที่เรียกว่า turnkey ก็เปรียบได้กับ เราซื้อแหวนเพชรสำเร็จหนึ่งวง ข้อดีคือ ได้ตามแบบที่เห็นแน่นอน แต่ข้อเสีย คือ ราคาอาจจะค่อนข้างสูง

ในขณะที่ถ้าเราให้คนนึงออกแบบ อีกคนก่อสร้าง อาจยุ่งยากหน่อย แต่โดยมากจะได้ราคาถูกลงครับ เปรียบได้กับ เราซื้อเพชรร่วง และนำมาทำตัวเรือนอีกที จริงๆ ถ้าอยากได้ถูกสุดๆ ต้องไปขึ้นเรือนที่นึง ฝังชุบอีกที่อะไรประมาณนั้น แต่คงยุ่งยากมากเกินไปครับ

เอาเป็นว่า เคล็ดลับง่ายๆ คือให้ทางร้านเพชร แจกแจงส่วนของราคาเพชรร่วง (เพชรที่ยังไม่ขึ้นเรือน) และตัวเรือน ให้คิดราคาแยกน่ะครับว่าง่ายๆ ถ้าผู้ขายคิดเพชรถูก ตัวเรือนแพง เราก็อาจซื้อแต่เพชร ไปขึ้นเรือนร้านอื่นก็ได้ครับ

โดยมากทุกๆร้านยินดี อยู่แล้วครับ ใครจะไม่อยากได้ลูกค้า ข้อดีของการคิดแบบแยกส่วน คือ เราสามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย ผู้ขายก็ไม่กล้าคิดราคาซี้ซั้ว ส่งผลให้โดยมากแล้ว เราจะได้ราคาแหวนเพชรถูกลงครับ

ไว้มีโอกาส ผมจะเขียนบทความเรื่องเคล็ดลับการต่อรองราคาแหวนเพชรล้วนๆ จากประสบการณ์ อีกทีครับ เชื่อมั้ยครับว่า แค่เราแสดงออกว่าชื่นชมผู้ขาย หรือร้านผู้ขาย ก็มีแนวโน้มว่าเราจะได้ราคาแหวนเพชรที่ถูกกว่าปกติ 5-10% แล้วครับ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าบทความนี้ยาวไปหน่อยแล้ว ชักเหนื่อย ขอจบดื้อๆ แบบนี้เลย คงไม่ว่ากันนะครับ ^_^